ทำมะนาวนอกฤดู
ใช้ปุ๋ยโบกาฉิ + ฮอร์โมนชีวภาพโตตโต้
" ใส่โบกาฉิ แล้ว กดใบอ่อน" ทำมะนาวนอกฤดู แบบเกษตรอินทรีย์ เกษตรกรอายุยืน ต้นมะนาวอายุยาวไม่ต้องใช้ปุ๋ยสูตร ไม่ต้องทำบ่อวง ไม่ต้องคลุมพลาสติกบนหลังร่องลูกฟูก
มะนาวพืชเศรษฐกิจที่น่าจับตา ปีก่อนที่ผ่านๆมาเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงที่มีผลผลิตมะนาวออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ราคาถูก แต่ปีนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มะนาวเดือนตุลาคม ราคาดีขึ้น ! เพราะสวนมะนาวหลายๆที่ถูกเปลี่ยนสภาพกลายไปเป็นนาเสียแล้ว รวมทั้งต้นมะนาวที่ตายลงเพราะเป็นโรค ตอนนี้ใครที่ทำสวนมะนาวอยู่ก็โชคดีไป เพราะรายได้ดีขึ้น และไม่ว่าปีไหนๆตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงหน้าร้อน ราคามะนาวก็ดีเสมอๆ ใครหลายคนคงอยากจะทำมะนาวนอกฤดู เพื่อให้มีรายได้มากขึ้นอีก วันนี้โตตโต้ก็เลยหยิบยกเรื่องการทำมะนาวนอกฤดูมาฝากพี่น้องเกษตรกรกันค่ะ ใช้วิธีเกษตรธรรมชาติทำให้ได้มะนาวลูกโตไซส์จัมโบ้ ผลผลิตดี ไม่เป็นโรคเพราะมีภูมิต้านทานโรคได้ดี แมลงไม่รบกวน หลังฤดูกาลเก็บผลผลิตไปแล้วต้นก็ไม่โทรม รวมทั้งไม่มสารพิษตกค้างที่ผลผลิต ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และการให้สารชีวภาพก็ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเกษตรกรด้วยค่ะ
การทำมะนาวนอกฤดูโดยทั่วไป มี 3 วิธี
ปลูกโดยใช้บ่อวง เหมาะสมกับการปลูกในพื้นที่ดินไม่ดี ดินเค็ม การแก้ปัญหาโดยยกต้นขึ้นไม่ให้รากลงถึงดินเค็มด้านล่าง สามารถอดน้ำได้ง่าย ทำมะนาวให้ออกตามเวลาเป็นชุดใหญ่ๆพร้อมกันได้ แต่ต้องลงทุนค่าบ่อวง และต้นเจริญเติบโตได้ในเขตจำกัด ต้องใส่ปุ๋ยบ่อยคลุมพลาสติกบนหลังร่องลูกฟูก (เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มักมีฝนตกหนักติดต่อกันเกินสัปดาห์ด้วย) สามารถอดน้ำได้ง่ายแต่ต้องลงทุนค่าผืนพลาสติก เมื่ออดน้ำประมาณ 15 วัน ใบเหี่ยวแล้ว ก็ให้หว่านโบกาฉิเมื่อต้นมะนาวได้รับน้ำก็จะออกดอกกดใบอ่อน ด้วยฮอร์โมนชีวภาพ ปลอดภัยต่อสุขภาพ 100% ลงทุนต่ำ กำไรดี และยังเป็นการบำรุงต้นมะนาว และ บำรุงดินไปในตัว มะนาวตามฤดูโดยปกติธรรมชาติแล้ว เมื่อขาดน้ำในฤดูแล้งก็จะเริ่มสะสมอาหาร เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน มะนาวก็จะเริ่มแตกใบอ่อน รวมทั้งออกดอกในช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ค. หากทำการกดใบอ่อนโดยฉีดพ่นฮอร์โมนในช่วงเดือน ก.ค. ใช้เวลาประมาณ 15 -20 วัน ก็จะออกดอก เก็บลูกขายในเดือน ม.ค. - เม.ย. พอดี ทำให้ดอกไหลออกมาเรื่อยๆ ทยอยกันออกหลายรุ่นมีรายได้เป็นช่วงระยะยาว
การเตรียมต้นมะนาว สำหรับทำผลผลิตนอกฤดู (มะนาวอายุ 2 ปี ขึ้นไป แล้วแต่ทรงพุ่ม)
อย่าให้มะนาวขาดน้ำจนเกินไป ในช่วงฤดูร้อน (มิฉะนั้นมะนาวจะสะสมอาหาร และออกดอกพรึบเมื่อได้รับน้ำฝน) ระยะนี้ควรบำรุงต้นให้สมบูรณ์ “สร้างใบเยอะๆ” โดยการรดน้ำและใส่โบกาฉิ หรือ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักบางๆ เมื่อถึงเดือน มิ.ย.- ก.ค. ก็จะมีดอกออกมาบ้าง จะไม่ออกดอกจนขาวเต็มต้นไปหมด สามารถเก็บลูกขายได้บ้าง แต่หากปลิดลูกออก / ตีทิ้ง ก็จะทำให้มะนาวนอกฤดูนั้นติดมากกว่า หากสภาพต้นไม่สมบูรณ์ / เป็นโรคเยอะ / ระบบรากเสีย / ใช้ปุ๋ยยาเคมี-ยาฆ่าหญ้า เยอะมาก / ดินแข็ง ไม่ซึมน้ำ ควรปรับปรุงดินให้ดี และ ต้นมะนาวก็จะสมบูรณ์ตามมา ใช้สารปรับปรุงดิน 1 ก.ก.+ สุโตจู้ S.T. (สูตร 4 ) 500ซีซี ขยายจุลินทรีย์ แช่น้ำ 20 ลิตร หมักทิ้งไว้ประมาณ 12 ชม. แล้วค่อยนำไปผสมน้ำอีก 500-1000 ลิตร (เพื่อความสะดวก) ฉีดพ่นเฉพาะดินเท่านั้น ห้ามฉีดพ่นต้นและใบ พื้นที่ 1-2 ไร่ จะช่วยฟื้นฟูระบบราก ต้นมะนาวจะแข็งแรงขึ้น รวมทั้งเป็นการฆ่าเชื้อโรค ปรับปรุงคุณภาพและโครงสร้างของดิน
สำหรับมะนาวเป็นโรค แคงเคอร์ ราดำบนลูก ใช้สูตร 4 หรือสูตร 5 (20 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร) ฉีดพ่นสม่ำเสมอทั่วต้น หลังฝนตก เพื่อล้างน้ำฝน หรือหมอกน้ำค้าง (หากเป็นฝนผิดฤดูจะเป็นฝนกรดทำให้เกิดปัญหากับมะนาวได้) ใบชุดใหม่จะสวยสมบูรณ์ดีกว่าเดิมสำหรับมะนาวแก่ / ต้นโทรมมาก นอกจากปรับปรุงดินแล้ว ก็ควรใส่ปุ๋ยโบกาฉิทุกๆ 2 เดือนเพื่อฟื้นต้นและนำอินทรียวัตถุในท้องถิ่นเช่นฟาง ใบไม้ แกลบ ขี้เลื่อย เปลือกถั่ว มาใส่เพิ่มแล้วเอาโบกาฉิหว่านทับลงไป ใช้ฮอร์โมน สูตร 1+2+3+4 ฉีดพ่นด้วย ประมาณ 7 วันครั้งฉีดพ่นฮอร์โมนอาหารเสริมทางใบ อย่างสม่ำเสมอ ตามความเหมาะสม พิจารณาจากสภาพของต้น
หมายเหตุ ควรบำรุงต้นมะนาวให้สมบูรณ์ แล้วจึงค่อยทำนอกฤดู เพื่อให้ต้นมะนาวอายุยืน ไม่ควรบังคับต้นที่โทรมให้ออกนอกฤดูจะทำให้อายุสั้น
การกดใบอ่อน มีขั้นตอนดังนี้
ใส่โบกาฉิสูตรเร่งดอก เช่น มะนาวอายุ 4 ปี ใส่ 2-3 กก. อายุ 10 ปี ใส่ 5-7 กก. เป็นต้น
ฉีดพ่นฮอร์โมนครั้งที่ 1 กลางฤดูฝน เพื่อกดใบอ่อน / เร่งสะสมอาหาร / สร้างตาดอก ใช้สูตร1 20ซีซี + สูตร2 20 ซีซี + สูตร3 20 ซีซี + สูตร4 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น ครั้งแรกนี้เพื่อให้ต้นมะนาวได้ปรับสภาพเพื่อรับฮอร์โมนชีวภาพได้ฉีดพ่นฮอร์โมนครั้งที่ 2 3-4 วันถัดมาให้ใช้ สูตร1 20ซีซี + สูตร2 20 ซีซี + สูตร3 20 ซีซี+ สูตร4 30-40 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ ความเข้มข้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับถ้ามีฝนตกหนักมะนาวมักแตกใบอ่อน หรือ ใบสวยหนา เขียวสมบูรณ์ดีแล้ว ก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นขึ้นได้
หมักหลุมปลูก
ขุดหลุมขนาดตามความเหมาะสม (เช่น 30 x 30 ซม.) ใส่ปุ๋ยคอก / ปุ๋ยหมัก / อินทรียวัตถุที่หาได้ง่าย เช่น ฟาง ใบไม้แห้ง มูลสัตว์ เศษอาหาร ฯลฯ 4-5 กำมือ (เพื่อลดต้นทุน และเป็นอาหารพืชในระยะยาว) หว่านปุ๋ยโบกาฉิสูตรรองพื้น 2 กำมือทับลงไป
ใช้สารปรับปรุงดิน 1 กก. + สุโตจู้ S.T. สูตร4 500 ซีซี แช่น้ำ 200-500 ลิตร 1 คืน ฉีดพ่นบนวัสดุให้ทั่ว ข้อควรระวัง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ควรใช้ถังที่สะอาด , ขณะเก็บปิดฝาให้สนิทและไม่ถูกความร้อน ควรใช้ให้หมดภายใน 1-2วัน * อัตราความเข้มข้นนี้ ห้ามฉีดพ่น ถูก ต้นและใบพืชที่ปลูก* ในการผสมสารปรับปรุงดินฉีดพ่น ควรเปิดหัวฉีดให้น้ำ ออกสะดวก อาจใช้สายยางฉีดโดยไม่ใส่หัวพ่นจะทำให้หัวพ่นไม่อุดตันเนื่องจากวัสดุหลายชนิด ในสารปรับปรุงดินจะต้องใช้เวลาในการย่อยสลายในแปลงปลูกพืช กากตะกอนในสารปรับปรุงดินเป็นอาหารพืช ใช้ผสมน้ำ แล้วรดราดในนา หรือ ใส่เป็นปุ๋ยให้พืช
กลบดิน แล้วคลุมหลุมปลูกด้วยฟาง 7 วัน ( รดน้ำให้ดินชุ่มชื้นทุกวัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ ) จึงปลูกกล้าได้
การดูแลต้นมะนาว
มะนาวที่เพิ่งปลูก หลังปลูกได้อายุ 3-4 เดือน ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น (สูตรรองพื้น) เมื่อต้นใหญ่ขึ้นตัดแต่งกิ่งกระโดงออก เพราะกิ่งที่แตกออกด้านข้างนั้นให้ผลผลิตดีกว่า ต้นจะเป็นทรงพุ่มซึ่งสามารถเก็บลูกได้ง่ายด้วย และ ใช้ฮอร์โมนชีวภาพโตตโต้ สูตร 1+3+4 รวมกันไม่เกิน 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7 วันครั้ง และใส่โบกาฉิประมาณปีละ 3 ครั้ง (หรือมากกว่า หากดินมีคุณภาพต่ำหรือมีอินทรียวัตถุอยู่น้อย)มะนาวอายุ 2 ปี ปล่อยให้ติดลูกตามธรรมชาติ ถ้าต้นมีลูกมากเกินไปลูกจะร่วงเอง ยังไม่ควรบำรุงให้ขั้วเหนียวและติดลูกมากเกินไป ควรปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติก่อน เพื่อให้ต้นไม่โทรมและจะมีอายุยืน มะนาวอายุได้ 3 ปี ก็สามารถบำรุงให้ติดลูกได้เต็มที่มะนาวที่กำลังให้ผลผลิต
ถ้าต้องการบำรุงทุกส่วนของพืช ใบ ดอก ผล ใช้ฮอร์โมนน้ำ สูตร 1+2+3+4 รวมกันประมาณ 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตรถ้าใบสวยดีแล้วใช้ฮอร์โมนน้ำ สูตร 2+3+4 รวมกันประมาณ 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7 วันครั้งถ้าออกดอกติดผลมากเกินไปไม่ต้องใช้สูตร 2 (บำรุงดอก)ให้ใช้ สูตร 1+3+4 รวมกันประมาณ 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7 วันครั้งเมื่อมะนาวติดเป็นผล ใส่โบกาฉิ 1-2 เดือนครั้ง โดยเฉพาะมะนาวที่ให้ผลผลิตทั้งปี ยิ่งขยันใส่ทุกเดือนยิ่งดี จะใส่เท่าใดขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่มตารางเมตรละ 2 กำมือ เพื่อบำรุงลูกให้ดก ใหญ่ไซส์จัมโบ้ใช้สุโตจู้ S.T. สูตร 4 ควบคู่ไปกับฮอร์โมนทุกสูตรได้ตลอด จะช่วยป้องกันโรค ล้างฝนกรด ลดราดำ ตัดวงจรแมลงศัตรูพืช
หากมีโรคและแมลงระบาดหนัก
ใช้ สุโตจู้ S.T.สูตร4 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นก่อน 1 - 2 ครั้ง เพื่อให้พืชรู้ตัว และตอบรับกับการใช้ฮอร์โมนชีวภาพก่อนหลังจากนั้นใช้ สุโตจู้ S.M. สูตร5 ฉีดพ่นในอัตราส่วน “ห้ามเกิน” 20 ซีซี : น้ำ 20 ลิตร 3 - 5 วัน/ครั้ง
การกำจัดวัชพืชหลีกเลี่ยงการ ฉีดยาฆ่าหญ้า เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน ควรใช้วิธีวางแผนการตัดหญ้า จะได้อินทรียวัตถุและหน้าดินไม่เสีย
การใช้ฮอร์โมนหลายสูตรรวมกัน ตามคุณสมบัติในการบำรุงต้น ใบ ผล ให้ได้ตามความต้องการ อย่าใช้เกินอัตราส่วนเนื่องจากฮอร์โมนชีวภาพนั้นมีประสิทธิภาพเข้าทำงานในระบบเซลล์ของพืชจึงมีฤทธิ์แรงและออกฤทธิ์เสริมกัน การใช้ในอัตราส่วนต่างกันก็จะให้ผลต่างกัน เช่น ใช้อัตราส่วนเจือจางมีผลบำรุงพืช ในขณะที่ฮอร์โมนสูตรเดียวกันใช้อัตราส่วนเข้มข้นขึ้นจะมีผลไปยับยั้งการเจริญเติบโตกดใบอ่อนได้ หรือใช้เกินขนาดสำหรับพืชที่บอบบางเช่น มะเขือเทศ ก็อาจทำให้ใบไหม้ได้
ใช้ปุ๋ยโบกาฉิ + ฮอร์โมนชีวภาพโตตโต้
" ใส่โบกาฉิ แล้ว กดใบอ่อน" ทำมะนาวนอกฤดู แบบเกษตรอินทรีย์ เกษตรกรอายุยืน ต้นมะนาวอายุยาวไม่ต้องใช้ปุ๋ยสูตร ไม่ต้องทำบ่อวง ไม่ต้องคลุมพลาสติกบนหลังร่องลูกฟูก
มะนาวพืชเศรษฐกิจที่น่าจับตา ปีก่อนที่ผ่านๆมาเดือนตุลาคม จะเป็นช่วงที่มีผลผลิตมะนาวออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทำให้ราคาถูก แต่ปีนี้มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น มะนาวเดือนตุลาคม ราคาดีขึ้น ! เพราะสวนมะนาวหลายๆที่ถูกเปลี่ยนสภาพกลายไปเป็นนาเสียแล้ว รวมทั้งต้นมะนาวที่ตายลงเพราะเป็นโรค ตอนนี้ใครที่ทำสวนมะนาวอยู่ก็โชคดีไป เพราะรายได้ดีขึ้น และไม่ว่าปีไหนๆตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงหน้าร้อน ราคามะนาวก็ดีเสมอๆ ใครหลายคนคงอยากจะทำมะนาวนอกฤดู เพื่อให้มีรายได้มากขึ้นอีก วันนี้โตตโต้ก็เลยหยิบยกเรื่องการทำมะนาวนอกฤดูมาฝากพี่น้องเกษตรกรกันค่ะ ใช้วิธีเกษตรธรรมชาติทำให้ได้มะนาวลูกโตไซส์จัมโบ้ ผลผลิตดี ไม่เป็นโรคเพราะมีภูมิต้านทานโรคได้ดี แมลงไม่รบกวน หลังฤดูกาลเก็บผลผลิตไปแล้วต้นก็ไม่โทรม รวมทั้งไม่มสารพิษตกค้างที่ผลผลิต ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค และการให้สารชีวภาพก็ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเกษตรกรด้วยค่ะ
การทำมะนาวนอกฤดูโดยทั่วไป มี 3 วิธี
ปลูกโดยใช้บ่อวง เหมาะสมกับการปลูกในพื้นที่ดินไม่ดี ดินเค็ม การแก้ปัญหาโดยยกต้นขึ้นไม่ให้รากลงถึงดินเค็มด้านล่าง สามารถอดน้ำได้ง่าย ทำมะนาวให้ออกตามเวลาเป็นชุดใหญ่ๆพร้อมกันได้ แต่ต้องลงทุนค่าบ่อวง และต้นเจริญเติบโตได้ในเขตจำกัด ต้องใส่ปุ๋ยบ่อยคลุมพลาสติกบนหลังร่องลูกฟูก (เหมาะสำหรับพื้นที่ ที่มักมีฝนตกหนักติดต่อกันเกินสัปดาห์ด้วย) สามารถอดน้ำได้ง่ายแต่ต้องลงทุนค่าผืนพลาสติก เมื่ออดน้ำประมาณ 15 วัน ใบเหี่ยวแล้ว ก็ให้หว่านโบกาฉิเมื่อต้นมะนาวได้รับน้ำก็จะออกดอกกดใบอ่อน ด้วยฮอร์โมนชีวภาพ ปลอดภัยต่อสุขภาพ 100% ลงทุนต่ำ กำไรดี และยังเป็นการบำรุงต้นมะนาว และ บำรุงดินไปในตัว มะนาวตามฤดูโดยปกติธรรมชาติแล้ว เมื่อขาดน้ำในฤดูแล้งก็จะเริ่มสะสมอาหาร เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน มะนาวก็จะเริ่มแตกใบอ่อน รวมทั้งออกดอกในช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ค. หากทำการกดใบอ่อนโดยฉีดพ่นฮอร์โมนในช่วงเดือน ก.ค. ใช้เวลาประมาณ 15 -20 วัน ก็จะออกดอก เก็บลูกขายในเดือน ม.ค. - เม.ย. พอดี ทำให้ดอกไหลออกมาเรื่อยๆ ทยอยกันออกหลายรุ่นมีรายได้เป็นช่วงระยะยาว
การเตรียมต้นมะนาว สำหรับทำผลผลิตนอกฤดู (มะนาวอายุ 2 ปี ขึ้นไป แล้วแต่ทรงพุ่ม)
อย่าให้มะนาวขาดน้ำจนเกินไป ในช่วงฤดูร้อน (มิฉะนั้นมะนาวจะสะสมอาหาร และออกดอกพรึบเมื่อได้รับน้ำฝน) ระยะนี้ควรบำรุงต้นให้สมบูรณ์ “สร้างใบเยอะๆ” โดยการรดน้ำและใส่โบกาฉิ หรือ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมักบางๆ เมื่อถึงเดือน มิ.ย.- ก.ค. ก็จะมีดอกออกมาบ้าง จะไม่ออกดอกจนขาวเต็มต้นไปหมด สามารถเก็บลูกขายได้บ้าง แต่หากปลิดลูกออก / ตีทิ้ง ก็จะทำให้มะนาวนอกฤดูนั้นติดมากกว่า หากสภาพต้นไม่สมบูรณ์ / เป็นโรคเยอะ / ระบบรากเสีย / ใช้ปุ๋ยยาเคมี-ยาฆ่าหญ้า เยอะมาก / ดินแข็ง ไม่ซึมน้ำ ควรปรับปรุงดินให้ดี และ ต้นมะนาวก็จะสมบูรณ์ตามมา ใช้สารปรับปรุงดิน 1 ก.ก.+ สุโตจู้ S.T. (สูตร 4 ) 500ซีซี ขยายจุลินทรีย์ แช่น้ำ 20 ลิตร หมักทิ้งไว้ประมาณ 12 ชม. แล้วค่อยนำไปผสมน้ำอีก 500-1000 ลิตร (เพื่อความสะดวก) ฉีดพ่นเฉพาะดินเท่านั้น ห้ามฉีดพ่นต้นและใบ พื้นที่ 1-2 ไร่ จะช่วยฟื้นฟูระบบราก ต้นมะนาวจะแข็งแรงขึ้น รวมทั้งเป็นการฆ่าเชื้อโรค ปรับปรุงคุณภาพและโครงสร้างของดิน
สำหรับมะนาวเป็นโรค แคงเคอร์ ราดำบนลูก ใช้สูตร 4 หรือสูตร 5 (20 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร) ฉีดพ่นสม่ำเสมอทั่วต้น หลังฝนตก เพื่อล้างน้ำฝน หรือหมอกน้ำค้าง (หากเป็นฝนผิดฤดูจะเป็นฝนกรดทำให้เกิดปัญหากับมะนาวได้) ใบชุดใหม่จะสวยสมบูรณ์ดีกว่าเดิมสำหรับมะนาวแก่ / ต้นโทรมมาก นอกจากปรับปรุงดินแล้ว ก็ควรใส่ปุ๋ยโบกาฉิทุกๆ 2 เดือนเพื่อฟื้นต้นและนำอินทรียวัตถุในท้องถิ่นเช่นฟาง ใบไม้ แกลบ ขี้เลื่อย เปลือกถั่ว มาใส่เพิ่มแล้วเอาโบกาฉิหว่านทับลงไป ใช้ฮอร์โมน สูตร 1+2+3+4 ฉีดพ่นด้วย ประมาณ 7 วันครั้งฉีดพ่นฮอร์โมนอาหารเสริมทางใบ อย่างสม่ำเสมอ ตามความเหมาะสม พิจารณาจากสภาพของต้น
หมายเหตุ ควรบำรุงต้นมะนาวให้สมบูรณ์ แล้วจึงค่อยทำนอกฤดู เพื่อให้ต้นมะนาวอายุยืน ไม่ควรบังคับต้นที่โทรมให้ออกนอกฤดูจะทำให้อายุสั้น
การกดใบอ่อน มีขั้นตอนดังนี้
ใส่โบกาฉิสูตรเร่งดอก เช่น มะนาวอายุ 4 ปี ใส่ 2-3 กก. อายุ 10 ปี ใส่ 5-7 กก. เป็นต้น
ฉีดพ่นฮอร์โมนครั้งที่ 1 กลางฤดูฝน เพื่อกดใบอ่อน / เร่งสะสมอาหาร / สร้างตาดอก ใช้สูตร1 20ซีซี + สูตร2 20 ซีซี + สูตร3 20 ซีซี + สูตร4 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วทั้งต้น ครั้งแรกนี้เพื่อให้ต้นมะนาวได้ปรับสภาพเพื่อรับฮอร์โมนชีวภาพได้ฉีดพ่นฮอร์โมนครั้งที่ 2 3-4 วันถัดมาให้ใช้ สูตร1 20ซีซี + สูตร2 20 ซีซี + สูตร3 20 ซีซี+ สูตร4 30-40 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร
หมายเหตุ ความเข้มข้นที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับถ้ามีฝนตกหนักมะนาวมักแตกใบอ่อน หรือ ใบสวยหนา เขียวสมบูรณ์ดีแล้ว ก็สามารถเพิ่มความเข้มข้นขึ้นได้
หมักหลุมปลูก
ขุดหลุมขนาดตามความเหมาะสม (เช่น 30 x 30 ซม.) ใส่ปุ๋ยคอก / ปุ๋ยหมัก / อินทรียวัตถุที่หาได้ง่าย เช่น ฟาง ใบไม้แห้ง มูลสัตว์ เศษอาหาร ฯลฯ 4-5 กำมือ (เพื่อลดต้นทุน และเป็นอาหารพืชในระยะยาว) หว่านปุ๋ยโบกาฉิสูตรรองพื้น 2 กำมือทับลงไป
ใช้สารปรับปรุงดิน 1 กก. + สุโตจู้ S.T. สูตร4 500 ซีซี แช่น้ำ 200-500 ลิตร 1 คืน ฉีดพ่นบนวัสดุให้ทั่ว ข้อควรระวัง เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพดีที่สุด ควรใช้ถังที่สะอาด , ขณะเก็บปิดฝาให้สนิทและไม่ถูกความร้อน ควรใช้ให้หมดภายใน 1-2วัน * อัตราความเข้มข้นนี้ ห้ามฉีดพ่น ถูก ต้นและใบพืชที่ปลูก* ในการผสมสารปรับปรุงดินฉีดพ่น ควรเปิดหัวฉีดให้น้ำ ออกสะดวก อาจใช้สายยางฉีดโดยไม่ใส่หัวพ่นจะทำให้หัวพ่นไม่อุดตันเนื่องจากวัสดุหลายชนิด ในสารปรับปรุงดินจะต้องใช้เวลาในการย่อยสลายในแปลงปลูกพืช กากตะกอนในสารปรับปรุงดินเป็นอาหารพืช ใช้ผสมน้ำ แล้วรดราดในนา หรือ ใส่เป็นปุ๋ยให้พืช
กลบดิน แล้วคลุมหลุมปลูกด้วยฟาง 7 วัน ( รดน้ำให้ดินชุ่มชื้นทุกวัน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของจุลินทรีย์ ) จึงปลูกกล้าได้
การดูแลต้นมะนาว
มะนาวที่เพิ่งปลูก หลังปลูกได้อายุ 3-4 เดือน ใส่ปุ๋ยบำรุงต้น (สูตรรองพื้น) เมื่อต้นใหญ่ขึ้นตัดแต่งกิ่งกระโดงออก เพราะกิ่งที่แตกออกด้านข้างนั้นให้ผลผลิตดีกว่า ต้นจะเป็นทรงพุ่มซึ่งสามารถเก็บลูกได้ง่ายด้วย และ ใช้ฮอร์โมนชีวภาพโตตโต้ สูตร 1+3+4 รวมกันไม่เกิน 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7 วันครั้ง และใส่โบกาฉิประมาณปีละ 3 ครั้ง (หรือมากกว่า หากดินมีคุณภาพต่ำหรือมีอินทรียวัตถุอยู่น้อย)มะนาวอายุ 2 ปี ปล่อยให้ติดลูกตามธรรมชาติ ถ้าต้นมีลูกมากเกินไปลูกจะร่วงเอง ยังไม่ควรบำรุงให้ขั้วเหนียวและติดลูกมากเกินไป ควรปล่อยให้เป็นตามธรรมชาติก่อน เพื่อให้ต้นไม่โทรมและจะมีอายุยืน มะนาวอายุได้ 3 ปี ก็สามารถบำรุงให้ติดลูกได้เต็มที่มะนาวที่กำลังให้ผลผลิต
ถ้าต้องการบำรุงทุกส่วนของพืช ใบ ดอก ผล ใช้ฮอร์โมนน้ำ สูตร 1+2+3+4 รวมกันประมาณ 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตรถ้าใบสวยดีแล้วใช้ฮอร์โมนน้ำ สูตร 2+3+4 รวมกันประมาณ 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7 วันครั้งถ้าออกดอกติดผลมากเกินไปไม่ต้องใช้สูตร 2 (บำรุงดอก)ให้ใช้ สูตร 1+3+4 รวมกันประมาณ 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 7 วันครั้งเมื่อมะนาวติดเป็นผล ใส่โบกาฉิ 1-2 เดือนครั้ง โดยเฉพาะมะนาวที่ให้ผลผลิตทั้งปี ยิ่งขยันใส่ทุกเดือนยิ่งดี จะใส่เท่าใดขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่มตารางเมตรละ 2 กำมือ เพื่อบำรุงลูกให้ดก ใหญ่ไซส์จัมโบ้ใช้สุโตจู้ S.T. สูตร 4 ควบคู่ไปกับฮอร์โมนทุกสูตรได้ตลอด จะช่วยป้องกันโรค ล้างฝนกรด ลดราดำ ตัดวงจรแมลงศัตรูพืช
หากมีโรคและแมลงระบาดหนัก
ใช้ สุโตจู้ S.T.สูตร4 20 ซีซี + น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นก่อน 1 - 2 ครั้ง เพื่อให้พืชรู้ตัว และตอบรับกับการใช้ฮอร์โมนชีวภาพก่อนหลังจากนั้นใช้ สุโตจู้ S.M. สูตร5 ฉีดพ่นในอัตราส่วน “ห้ามเกิน” 20 ซีซี : น้ำ 20 ลิตร 3 - 5 วัน/ครั้ง
การกำจัดวัชพืชหลีกเลี่ยงการ ฉีดยาฆ่าหญ้า เพื่อการเกษตรที่ยั่งยืน ควรใช้วิธีวางแผนการตัดหญ้า จะได้อินทรียวัตถุและหน้าดินไม่เสีย
การใช้ฮอร์โมนหลายสูตรรวมกัน ตามคุณสมบัติในการบำรุงต้น ใบ ผล ให้ได้ตามความต้องการ อย่าใช้เกินอัตราส่วนเนื่องจากฮอร์โมนชีวภาพนั้นมีประสิทธิภาพเข้าทำงานในระบบเซลล์ของพืชจึงมีฤทธิ์แรงและออกฤทธิ์เสริมกัน การใช้ในอัตราส่วนต่างกันก็จะให้ผลต่างกัน เช่น ใช้อัตราส่วนเจือจางมีผลบำรุงพืช ในขณะที่ฮอร์โมนสูตรเดียวกันใช้อัตราส่วนเข้มข้นขึ้นจะมีผลไปยับยั้งการเจริญเติบโตกดใบอ่อนได้ หรือใช้เกินขนาดสำหรับพืชที่บอบบางเช่น มะเขือเทศ ก็อาจทำให้ใบไหม้ได้