การเลี้ยงนกกระทา
นกกระทาที่นิยมเลี้ยงคือ นกกระทาพันธุ์ญี่ปุ่น (Japanese Quail) และการที่คุณจะเริ่มเลี้ยงนกกระทานั้น ขอแนะนำให้คุณ ซื้อลูกนก หรือนกใหญ่มาเลี้ยงเลย อย่าซื้อไข่ที่มีเชื้อมาฟักเองเลย เพราะมันเสี่ยงกับการฟักของลูกนก
เรามาดูปัจจัยในการทำฟาร์มนกกระทาให้ยั่งยืน และทำรายได้ให้เราตลอด กันดีกว่า
โรงเรือนและอุปกรณ์
อาหารนกกระทา
การจัดการเลี้ยงดู
โรคและการป้องกันโรค
การตลาด
ฟาร์มนกกระทา : โรงเรือน
โรงเรือนควรสร้างแบบเพิงหมาแหงน หรือหน้าจั่ว และต้องให้สะดวกในการเลี้ยงดูนก หรือการทำความสะอาดด้วยนะ แล้วอีกอย่างที่สำคัญคือ ต้องให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะการระบายอากาศเป็นการนำเอาอากาศของเสียออกไปจากภายในโรงเรือน ซึ่งหากการระบายอากาศไม่ดีจะทำให้ภายในโรงเรือนอับชื้น กลิ่นแก๊สแอมโมเนียสะสม มีผลต่อการให้ผลผลิตไข่ด้วย และเพื่อไม่ให้เกิดโรคกับนกกระทา
พื้นโรงเรือน ควรเป็นพื้นคอนกรีต เพราะสะดวกในการล้างทำความสะอาด สำหรับฝาโรงเรือนควรใช้ลวดตาข่ายหรือลวดถักขนาดเล็กๆ เพื่อกันหนู นก และสัตว์อื่นๆ
กรงสำหรับลูกนก
โดยทั่วไปจะใช้ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 0.5 เมตร สำหรับกกลูกนกอายุ 1-20 วัน ประมาณ 250-300 ตัว ด้านกว้างของกรงควรจะทึบ ส่วนด้านยาวโปร่ง แต่ถ้าอากาศหนาวควรจะปิดทึบทั้ง 4 ด้าน พื้นกรงใช้ลวดตาข่ายสี่เหลี่ยมขนาด 1×1 ซ.ม. หรือลวดตาข่ายพลาสติก ตาเล็กๆ วางซ้อนกันหลายๆ กรงก็ได้ แต่ต้องทำประตูเปิด-ปิดไว้ในทางเดียวกัน เพื่อสะดวกในการทำงาน และควรมีภาชนะรองรับขี้นกจากกรงบนๆ ไม่ให้ตกใส่กรงด้านล่าง เพื่อป้องกันโรคระบาดด้วยกรงนกใหญ่
จะเป็นกรงขังเดี่ยว หรือกรงขังรวมฝูงใหญ่ก็ได้ กรงขังเดี่ยวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบสถิติข้อมูลนกกระทาเป็นรายตัวว่า ให้ผลผลิตมากน้อยเท่าใด จะวางกรงซ้อนกันหลายๆ ชั้นก็ได้ แต่ไม่ควรซ้อนกันมากเกินไป และให้พื้นลาดเอียงเพื่อจะทำให้ไข่กลิ้งออกมาได้ รางอาหารและน้ำอยู่ด้านหน้า และหลังกรง ใช้ตาข่ายขนาด 1×2 นิ้ว เพื่อให้หัวนกลอดออกมากินอาหารได้ ขนาดอาจจะกว้างประมาณ 5 นิ้ว ลึก 6 นิ้ว และสูง 5 นิ้ว พื้นลาดเอียง 15 องศา
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณืในการเลี้ยงดังนี้
รางน้ำ, รางอาหาร, เครื่องชั่งน้ำหนัก, รถเข็นอาหาร, สายยาง, ลังใส่ไข่, เครื่องพ่นยา, กรรไกรตัดปากนก เพื่อป้องกันไม่ให้นกจิกกัน
นี่คือ ราคาซื้อขาย ในตลาด
- ราคา นกกระทาเนื้อ ตลาดรับซื้ออยู่ที่ ตัวละ 8-10 บาท
- ราคา ไข่นก ขายส่ง 100 ฟอง 50 บาท
ถ้าคุณเลี้ยง 10,000 ตัว จะได้กำไร / เดือน ประมาณ 40,000 บาท
ก่อนเลี้ยงเรามาเรียนรู้ ข้อดี ของการเลี้ยงนกกระทากันก่อน
อย่างแรก นกกระทาสามารถทำผลผลิตได้ค่อนข้างสูง อัตราการให้ไข่เฉลี่ย 70% ของน้ำหนักตัว
นกกระทาจะให้ผลตอบแทนเร็วมากๆ เพราะนกกระทาเริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 42-45 วัน ระยะเวลาในการให้ผลผลิตไข่นานประมาณ 11 เดือน
การเลี้ยงนกกระทาใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย ประมาณ 3 ตารางเมตร สามารถเลี้ยงนกกระทาได้กว่า 500 ตัว จึงใช้เงินในการลงทุนไม่มาก
นกกระทายังสามารถทำการผลิตให้เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้
เนื้อนกกระทาสามารถนำปปรุงอาหารได้หลากหลายอย่าง และเป็นเนื้อคุณภาพดี
เริ่มเลี้ยงนกกระทา
ต้องซื้อพันธุ์นกกระทา จากฟาร์มที่เพาะลูกนกกระทาขาย ซึ่งมักจะขายลูกนกกระทาเมื่อมีอายุประมาณ 18 วัน ตามปกตินกจะมีขนงอกเต็มตัวเมื่ออายุ 3 – 4 สัปดาห์ และจะเป็นหนุ่มสาวเมื่อายุ 6 สัปดาห์
การให้อาหาร
จะใช้อาหารสำเร็จรูปเลี้ยงลูกนก โดยให้มีโปรตีนประมาณ 24 28 % หรือจะใช้อาหารไก่งวงก็ได้
การให้น้ำ
ใช้น้ำสะอาด และใสกรวดเล็กๆ ลงในจานน้ำด้วย ควรละลายพวกยาปฎิชีวนะผสมในน้ำให้ลูกนกกินด้วย จะช่วยให้เจริญเติบโตเร็วขึ้นและแข็งแรง ทั้งน้ำและอาหารจะต้องมีให้นกกินตลอดเวลา
นกกระทาที่นิยมเลี้ยงคือ นกกระทาพันธุ์ญี่ปุ่น (Japanese Quail) และการที่คุณจะเริ่มเลี้ยงนกกระทานั้น ขอแนะนำให้คุณ ซื้อลูกนก หรือนกใหญ่มาเลี้ยงเลย อย่าซื้อไข่ที่มีเชื้อมาฟักเองเลย เพราะมันเสี่ยงกับการฟักของลูกนก
เรามาดูปัจจัยในการทำฟาร์มนกกระทาให้ยั่งยืน และทำรายได้ให้เราตลอด กันดีกว่า
โรงเรือนและอุปกรณ์
อาหารนกกระทา
การจัดการเลี้ยงดู
โรคและการป้องกันโรค
การตลาด
ฟาร์มนกกระทา : โรงเรือน
โรงเรือนควรสร้างแบบเพิงหมาแหงน หรือหน้าจั่ว และต้องให้สะดวกในการเลี้ยงดูนก หรือการทำความสะอาดด้วยนะ แล้วอีกอย่างที่สำคัญคือ ต้องให้มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะการระบายอากาศเป็นการนำเอาอากาศของเสียออกไปจากภายในโรงเรือน ซึ่งหากการระบายอากาศไม่ดีจะทำให้ภายในโรงเรือนอับชื้น กลิ่นแก๊สแอมโมเนียสะสม มีผลต่อการให้ผลผลิตไข่ด้วย และเพื่อไม่ให้เกิดโรคกับนกกระทา
พื้นโรงเรือน ควรเป็นพื้นคอนกรีต เพราะสะดวกในการล้างทำความสะอาด สำหรับฝาโรงเรือนควรใช้ลวดตาข่ายหรือลวดถักขนาดเล็กๆ เพื่อกันหนู นก และสัตว์อื่นๆ
กรงสำหรับลูกนก
โดยทั่วไปจะใช้ขนาดกว้าง 1 เมตร ยาว 0.5 เมตร สำหรับกกลูกนกอายุ 1-20 วัน ประมาณ 250-300 ตัว ด้านกว้างของกรงควรจะทึบ ส่วนด้านยาวโปร่ง แต่ถ้าอากาศหนาวควรจะปิดทึบทั้ง 4 ด้าน พื้นกรงใช้ลวดตาข่ายสี่เหลี่ยมขนาด 1×1 ซ.ม. หรือลวดตาข่ายพลาสติก ตาเล็กๆ วางซ้อนกันหลายๆ กรงก็ได้ แต่ต้องทำประตูเปิด-ปิดไว้ในทางเดียวกัน เพื่อสะดวกในการทำงาน และควรมีภาชนะรองรับขี้นกจากกรงบนๆ ไม่ให้ตกใส่กรงด้านล่าง เพื่อป้องกันโรคระบาดด้วยกรงนกใหญ่
จะเป็นกรงขังเดี่ยว หรือกรงขังรวมฝูงใหญ่ก็ได้ กรงขังเดี่ยวเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทราบสถิติข้อมูลนกกระทาเป็นรายตัวว่า ให้ผลผลิตมากน้อยเท่าใด จะวางกรงซ้อนกันหลายๆ ชั้นก็ได้ แต่ไม่ควรซ้อนกันมากเกินไป และให้พื้นลาดเอียงเพื่อจะทำให้ไข่กลิ้งออกมาได้ รางอาหารและน้ำอยู่ด้านหน้า และหลังกรง ใช้ตาข่ายขนาด 1×2 นิ้ว เพื่อให้หัวนกลอดออกมากินอาหารได้ ขนาดอาจจะกว้างประมาณ 5 นิ้ว ลึก 6 นิ้ว และสูง 5 นิ้ว พื้นลาดเอียง 15 องศา
นอกจากนี้ยังมีอุปกรณืในการเลี้ยงดังนี้
รางน้ำ, รางอาหาร, เครื่องชั่งน้ำหนัก, รถเข็นอาหาร, สายยาง, ลังใส่ไข่, เครื่องพ่นยา, กรรไกรตัดปากนก เพื่อป้องกันไม่ให้นกจิกกัน
นี่คือ ราคาซื้อขาย ในตลาด
- ราคา นกกระทาเนื้อ ตลาดรับซื้ออยู่ที่ ตัวละ 8-10 บาท
- ราคา ไข่นก ขายส่ง 100 ฟอง 50 บาท
ถ้าคุณเลี้ยง 10,000 ตัว จะได้กำไร / เดือน ประมาณ 40,000 บาท
ก่อนเลี้ยงเรามาเรียนรู้ ข้อดี ของการเลี้ยงนกกระทากันก่อน
อย่างแรก นกกระทาสามารถทำผลผลิตได้ค่อนข้างสูง อัตราการให้ไข่เฉลี่ย 70% ของน้ำหนักตัว
นกกระทาจะให้ผลตอบแทนเร็วมากๆ เพราะนกกระทาเริ่มให้ไข่เมื่ออายุ 42-45 วัน ระยะเวลาในการให้ผลผลิตไข่นานประมาณ 11 เดือน
การเลี้ยงนกกระทาใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย ประมาณ 3 ตารางเมตร สามารถเลี้ยงนกกระทาได้กว่า 500 ตัว จึงใช้เงินในการลงทุนไม่มาก
นกกระทายังสามารถทำการผลิตให้เป็นอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ได้
เนื้อนกกระทาสามารถนำปปรุงอาหารได้หลากหลายอย่าง และเป็นเนื้อคุณภาพดี
เริ่มเลี้ยงนกกระทา
ต้องซื้อพันธุ์นกกระทา จากฟาร์มที่เพาะลูกนกกระทาขาย ซึ่งมักจะขายลูกนกกระทาเมื่อมีอายุประมาณ 18 วัน ตามปกตินกจะมีขนงอกเต็มตัวเมื่ออายุ 3 – 4 สัปดาห์ และจะเป็นหนุ่มสาวเมื่อายุ 6 สัปดาห์
การให้อาหาร
จะใช้อาหารสำเร็จรูปเลี้ยงลูกนก โดยให้มีโปรตีนประมาณ 24 28 % หรือจะใช้อาหารไก่งวงก็ได้
การให้น้ำ
ใช้น้ำสะอาด และใสกรวดเล็กๆ ลงในจานน้ำด้วย ควรละลายพวกยาปฎิชีวนะผสมในน้ำให้ลูกนกกินด้วย จะช่วยให้เจริญเติบโตเร็วขึ้นและแข็งแรง ทั้งน้ำและอาหารจะต้องมีให้นกกินตลอดเวลา